เกาะเชือก

ดำน้ำ ดูปะการัง แลเมืองตรัง หรอยจังฮู้  “เมืองตรัง” เชื่อว่าหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับชื่อนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง หมูย่างเมืองตรัง หรือ ขนมเค้กเมืองตรังก็ตาม แต่จะมีสักกี่คนที่ได้มีโอกาสไปเมืองนี้ ไปสัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง อันที่จริงผมเคยไปเที่ยวตรังมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสิบกว่าปีก่อน สมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฯ ตอน summer ปี 2 ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นราวปี 2540 เห็นจะได้ ที่ได้ไปคราวนั้น ก็เพราะว่าไอ้เอก เพื่อนที่มหาวิทยาลัย ชวนไปเที่ยวที่บ้านมัน ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานกว่าสิบปี พอเจอกันอีกที ต่างคนก็ต่างมีหน้าที่การงานใหญ่โตกันหมดแล้ว ไม่ค่อยได้ไปไหนกันเหมือนแต่เคย แม้ว่าชีวิตแต่ละคนจะแยกย้ายไปทำตามความฝันของตนเอง แต่พวกเราก็ยังจะนัดเจอกันอยู่บ้าง แต่แล้ววันหนึ่งไอ้เอกก็พาสาวน้อยนางหนึ่งพร้อมแจกการ์ดเชิญให้พวกเราไปร่วมงานแต่งที่เมืองตรัง งานนี้ ดูพวกเราจะตื่นเต้นกว่าคู่แต่งงานซะอีก แต่ละคนดูเหมือนไม่รอช้า รีบเคลียร์งานที่มีอยู่เพื่อมุ่งหน้าไปร่วมงานมันที่ตรังเลยทีเดียว คืนก่อนวันงานพวกเรารีบตีรถทัวร์จากกรุงเทพฯมาถึงที่สถานีขนส่งเมืองตรัง ประมาณ 7 โมงเช้า ทันขบวนแห่ขันหมากและพิธีหมั้นตอนเช้าพอดิบพอดี หลังจากนั้น ช่วงเย็นจึงเป็นงานเลี้ยงพิธีมงคลสมรส งานแต่งงานที่นี่จะเริ่มเร็วมากๆ ประมาณ 5 โมงเย็นกว่าๆ แขกเหรื่อก็มางานกันจนเต็มเกือบหมดแล้ว หลังเสร็จพิธี ไหนๆมาถึงที่นี่แล้ว ถ้าไม่ได้เที่ยวในเมืองก็คงมาเสียเที่ยว ว่าแล้วก็เลยโบกตุ๊กตุ๊กเที่ยวชมเมืองตรังสักหน่อย ตุ๊กตุ๊ก ที่นี่ราคาย่อมเยาว์ เรียกไปที่ไหนในตัวเมืองก็ตกคนละ 20 บาทเอง ไม่ช้านานเราก็มาหยุดเจอห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของห้างท้องถิ่นมากๆ ห้างที่ว่านี้ชื่อ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณเป็นห้างเก่าแก่ในตัวเมืองตรัง เห็นไอ้เอกเล่าว่าแต่ก่อนเป็นร้านโชห่วยเล็กๆอยู่ในตัวเมือง ก่อนจะขยับขยายกิจการมาเป็นห้างสรรพสินค้าของคนท้องถิ่นในปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน มาเมืองตรังทั้งที ถ้าไม่ได้เห็นน้ำทะเลก็ไม่รู้มาทำไม วันรุ่งขึ้นพวกเราเลยตัดสินใจว่าจะอยู่เที่ยวกันต่อ เพื่อย้อนรำลึกถึงความหลังเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่เคยมาเหยืยบถิ่นนี้ ว่าแล้วก็เลยซื้อทัวร์เพื่อไปเที่ยวเกาะ ดำน้ำ ดูปะการังสักหน่อย ในไม่ช้า รถตู้ของบริษัททัวร์ก็พาเราไปขึ้นเรือที่ท่าเรือปากเมงซึ่งเป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ใช้เป็นท่าเทียบเรือบริการนักท่องเที่ยวไปยังเกาะแก่งต่างๆ วันหนึ่งๆจะมีนักท่องเที่ยวใช้บริการวันละหลายพันคน เกาะแรกที่เรือพาเรามาถึงคือเกาะกระดานซึ่งเป็นเกาะที่สวยงามเกาะหนึ่งของจังหวัดตรัง จุดเด่นของเกาะนี้จะมีชายที่มีทรายขาว และน้ำใสมองเห็นแนวปะการัง และฝูงปลาการ์ตูนแหวกว่ายอย่างสวยงาม หลังจากนั้น ไกด์พาเราไปต่อที่ถ้ำมรกต ซึ่งเป็นถ้ำมหัศจรรย์กลางทะเลอยู่ในเขตเกาะมุก สามารถเข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ซึ่งพวกเราก็โชคดีมากที่เป็นช่วงน้ำลงพอดี สามารถเข้าไปเยี่ยมชมภายในได้ การเข้าออกภายในถ้ำจะต้องลอยคอเกาะเอวกันเข้าไป เนื่องจากในถ้าจะค่อนข้างมือและเป็นเส้นทางคดโค้ง ซึ่งอาจจะหลงทางได้ ภายในถ้ำจะเหมือนอีกโลกหนึ่ง มีชายหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ว่ากันว่าเมือแสงอาทิตย์ทำ/มุมพอเหมาะกับเกาะและเวิ้งถ้าจะทำให้น้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตงดงามสมกับชื่อจริงๆ เกาะม้าเป็นเกาะหนึ่งในทะเลตรัง ที่ชื่อเกาะม้านี้ ไกด์เล่าให้ฟังว่า เป็นเกาะที่ยื่นออกมามีลักษณะคล้ายหน้าม้า นักท่องเที่ยวจะนิยมมาดำน้ำดูปะการัง และชมปลาใต้น้ำในบริเวณนี้ เกาะสุดท้ายที่พวกเราเยี่ยมชม คือเกาะเชือกเป็นเกาะเล็กๆ ที่อยู่ระหว่างเกาะมุกและเกาะกระดาน มีปะการังน้ำตื้นและน้ำลึก รวมทั้งฝูงปลาและปะการังจำนวนมากอุดมสมบูรณ์ ว่ากันว่าที่ชื่อเกาะเชือก เนื่องมาจากกระแสน้ำบริเวณนี้พัดค่อนข้างแรง นักท่องเที่ยวที่มาดูปะการังที่เกาะนี้เลยต้องเกาะเชือกดูปะการัง